เสียงลมเข้ารถ
หลายท่านอาจเคยประสบกับปัญหาที่เวลากำลังขับรถแล้วได้ยินเสียงจากภายนอกดังเล็ดลอดเข้ามาในรถยนต์ ทำให้รบกวนบรรยากาศภายในรถยนต์ อีกทั้งยังทำให้เกิดความรำคาญ ความเป็นส่วนตัวหายไปอีกด้วย หากคุณกำลังเผชิญปัญหาแบบนี้ เราจะมาแนะนำสาเหตุของการเกิด เสียงลมเข้ารถ และเทคนิคการแก้ไขให้รถยนต์ของคุณกลับมาเงียบสงบ ไร้เสียง เป็นเหมือนเดิม
เสียงลมเข้ารถ เกิดจากสาเหตุอะไร
เนื่องจากมีเสียงของวัตถุที่สั่นสะเทือน เมื่อรถเคลื่อนที่ อากาศก็จะสั่นสะเทือนตามความถี่ของเสียงที่เกิดขึ้น แล้วกระจายไปรอบ ๆ เสียงที่สั่นสะเทือนอยู่ จึงทำให้คุณได้ยิน เสียงลมเข้าห้องโดยสาร หรือเสียงอื่น ๆ เข้ารถด้วยนั่นเอง
วิธีแก้เสียงลมเข้าห้องโดยสารรถยนต์
1. นำยางลดเสียงมาติดที่ขอบประตู
อุปกรณ์สำคัญที่คุณจะต้องมี ก็คือ ยางลดเสียงนั่นเอง โดยคุณจะต้องติดที่ขอบประตูรถ เทียบขนาดให้พอดี หากว่าไม่พอดีควรจะตัดออก นำด้านที่มีหมวกไว้ด้านบน จากนั้นเสียบลงที่ขอบประตู ทำให้สามารถคิดขอบของประตูได้อย่างพอดี เพื่อไม่ให้เลื่อนหลุดออกนั่นเอง
2. ตกแต่งเก็บรายละเอียดให้แนบเนียน
เมื่อสวมยางลดเสียงแล้ว คุณจะต้องไล่อากาศโดยการกดออกให้ทั่ว โดยใช้ค้อนยางทุบเบา ๆ นอกจากนี้ยังทำให้ยางแนบขอบประตูได้ดี มั่นใจได้เลยว่าจะไม่หลุดหรือร่วงอย่างแน่นอน ด้านในของยางนั้นมีโครงเหล็ก ทำให้สามารถติดได้แน่นมากด้วย อย่าลืมหันด้านให้ถูก เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการลดเสียงได้ดิจากนั้นก็เก็บรายละเอียดให้เรียบเนียน เข้ากับกระจกของประตูรถ
3. ทดลองเปิดและปิดก่อนใช้งาน
ขั้นตอนสุดท้าย ก็คือ การทดลองเปิดและปิดกระจกที่ติดยางลดเสียง เมื่อเปิดกระจกรถแล้วจะต้องมีความเรียบร้อย ขอบเรียบเสมอกันทั้งแผ่น ตัวโครงเหล็กจะต้องอยู่ด้านในเมื่อติดที่ขอบประตูแล้ว เป็นต้น เมื่อทดสอบรถยนต์ของคุณแล้วเปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังจากเกิดปัญหา เสียงลมเข้ารถ แล้ว หากว่าปัญหาไม่เกิดขึ้นอีก ก็แสดงว่าคุณสามารถทำได้ถูกต้องตามวิธีที่เราแนะนำ รับรองว่าปัญหาต่าง ๆ และเสียงภายนอกที่น่ารำคาญก็จะไม่มารบกวนคุณอีกต่อไป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? กับวิธีในการแก้ปัญหาเวลาลมเข้ารถ คุณสามารถที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ง่าย ๆ ด้วยยางลดเสียง ที่จะติดแนบกับกระจกรถยนต์ของคุณ ช่วยเก็บกักเสียงดังที่อยู่ภายนอกรถ ไม่ให้เข้ามายังรถยนต์ของคุณ คืนบรรยากาศที่ดีในการเดินทางให้คุณอีกครั้ง โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านคาร์แคร์หรืออู่ซ่อมรถเลย ทำเองได้ง่าย ๆ แบบนี้ อย่าลืมนำไปลองทำดูนะคะ
ขอบคุณข้อมูล เว็บไซต์ประกันรถ